สมณลิขิตในรูปแบบสมณดำริของพระสันตะปาปาฟรานซิสว่าด้วยความโปร่งใสในการบริหารจัดการงบประมาณสาธารณะ

         ความซื่อสัตย์ในเรื่องเงินทองเล็กน้อยตามพระคัมภีร์เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ในเรื่องที่เป็นความสำคัญเช่นเดียวกันกับความไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องที่มีความสำคัญเล็กน้อยนั้นจะเกี่ยวกับการไม่ซื่อสัตย์ในสิ่งที่มีความสำคัญ (เทียบ ลก. 16: 10)

        สันตะสำนัก นครรัฐวาติกันในการปฏิบัติตามอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติต่อต้านการคอรัปชั่น (Merida Convention) ตัดสินใจที่จะดำเนินการให้ดีที่สุดในการป้องกันและต่อสู้กับการคอรัปชั่นในรูปแบบต่างๆ โดยอาศัยสมณลิขิตรูปแบบพระสมณดำริ ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2020 ภายใต้ชื่อ “แนวทางว่าด้วยความโปร่งใส การควบคุม และการแข่งขันในสัญญาว่าจ้างของสันตะสำนักและรัฐวาติกัน” ได้มีการวางการป้องกันพื้นฐานเพื่อต่อสู้กับการคอรัปชั่นในบริบทของสัญญาสาธารณะ ทว่าการคอรัปชั่นก็ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในหนทางและรูปแบบต่างๆ ในแผนกอื่น ๆ นอกเหนือจากแผนกการจัดซื้อจัดจ้าง และนี่เป็นเหตุผลที่กฏเกณฑ์ระเบียบสากล และการปฏิบัติที่ดีออกกฎบังคับพิเศษเรื่องความโปร่งใสสำหรับบุคคลที่มีตำแหน่งสำคัญในด้านสาธารณะ เพื่อป้องกันและต่อสู้กับกับความขัดแย้งการขัดผลประโยชน์ และการเห็นแก่พรรคพวกโดยทั่วไปในทุกแผนก

        เมื่อเห็นว่าทุกคนที่ทำงานอยู่ในแผนกต่างๆของโรมันคูเรีย ในสถาบันที่เชื่อมโยงกับสันตะสำนัก หรือสถาบันที่มีความเกี่ยวข้อง และในการบริหารจัดการของรัฐวาติกันพวกเขามีความรับผิดชอบที่จะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตตามที่มีกล่าวไว้ในพระวรสาร

ด้วยการปฏิบัติตามหลักการ

เพื่อความโปร่งใสปราศจากซึ่งการขัดกับผลประโยชน์  เรา (พระสันตะปาปา) จึงประกาศกฎเกณฑ์ดังต่อไปนี้

§1 ในกฎเกณฑ์ทั่วไปของโรมันคูเรีย หลังมาตรา 13 ขอให้เติมมาตรา 13bis เข้าไป

§1 บุคคลที่ได้รับการจ้างหรือที่จะถูกจ้างในระดับผู้ปฏิบัติงานระดับ C. C1, C2 และ C3 รวมถึงพระคาร์ดินัลหัวหน้าแผนก หรือหัวหน้าสถาบันรวมทั้งผู้ที่ทำหน้าที่บริหารด้านตุลาการ หรือผู้ควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ดังที่ระบุไว้ใน §2, รวมถึงบุคคลที่อ้างถึงในมาตรา 10, 11 และ 13§1 ของกฎเกณฑ์นี้ และมาตรา 20 แห่งกฎเกณฑ์สำหรับบุคลากรฝ่ายบริหารแห่งสันตะสำนัก และรัฐวาติกันซึ่งต้องลงนาในหนังสือสัญญา ณ เวลาที่เข้าทำงานและทุกๆสองปี ซึ่งพวกเขาต้องรับรองว่า

ก) พวกเขาไม่เคยถูกตัดสินด้วยโทษอาญาในนครรัฐวาติกัน หรือในต่างประเทศ และพวกเขาไม่เคยได้รับประโยชน์จากการให้อภัยโทษใดๆ หรือมาตรการใดที่คล้ายกันที่เกี่ยวกับเรื่องเดียวกันหรือได้รับการละเว้นโทษโดยคำสั่ง

ข)พวกเขาไม่เป็นผู้ที่รอกระบวนการตัดสินอาญาในนครรัฐวาติกัน หรือในต่างประเทศและไม่เคยได้รับประโยชน์จากการให้อภัยโทษใดๆ หรือเท่าที่ทราบจากการสาบานตนเกี่ยวกับการสอบสวนความผิดที่มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม การฉ้อราษฎร์บังหลวง กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การฟอกเงินที่เป็นความผิดทางอาญา การเอารัดเอาเปรียบผู้เยาว์ การค้ามนุษย์ หรือการเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ การหลบหนีหรือเลี่ยงการจ่ายภาษี

ค) พวกเขาจะต้องไม่มี แม้โดยอาศัยบุคคลที่สาม ซึ่งเงินสดหรือการลงทุน รวมถึงเงินแชร์หรือผลประโยชน์ใดๆ ในบริษัทและธุรกิจไม่ว่าประเภทใดในบรรดาประเทศที่ระบุไว้ในกฎหมายโดยเสี่ยงกับการฟอกเงิน หรือสนับสนุนทุนให้กับการก่อการร้ายที่กำหนดไว้โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเชิงลับด้านการสอบสวนการเงินการคลัง นอกจากว่าผู้ให้คำสัญญาเป็นราษฎรของประเทศนั้น หรือมีญาติระดับชั้นที่สามมีภูมิลำเนาอยู่ที่นั้นเพื่อการทำงา นหรือเพื่อการศึกษาหรือเพื่อเหตุผลอื่นที่อาจเข้าใจได้

จ) สังหาริมทรัพย์และอหังสาริมทรัพย์ที่ผู้สัญญาเป็นเจ้าของหรือยึดถือ หรือค่าตอบแทนไม่ว่าชนิดใดที่ผู้สัญญาได้รับเท่าที่ผู้สัญญาทราบเกิดจากกิจกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ใช่ได้มาจากผลประโยชน์แห่งอาชญากรรม

ฉ) เท่าที่รับทราบพวกเขาไม่มีการเล่นเงินแชร์ หรือผลประโยชน์ไม่ว่าชนิดใดในบริษัทที่กระทำการเพื่อเป้าหมายในบริบทที่ขัดแย้งกับคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร

ช) ไม่ยึดถือ แม้อาศัยบุคคลที่สาม ซึ่งเงินสดหรือการลงทุน รวมถึงการเล่นแชร์และผลประโยชน์ไม่ว่าประเภทใดในบริษัทหรือธุรกิจในประเทศที่ถูกระบุด้วยกฎหมายที่ไม่ให้ความร่วมมือในเรื่องของการเสียภาษีที่พบโดยสำนักเลขาธิการเพื่อเศรษฐกิจ นอกจากว่าผู้ให้สัญญาหรือญาติถึงระดับขั้นที่สามเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศเหล่านั้นหรือทำงานหรือศึกษาอยู่ที่นั้น และทรัพย์สินเหล่านั้นได้มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่สรรพากรทราบแล้ว 

§2 ผู้ทำหน้าที่บริหารหมายถึงผู้ที่มีส่วนร่วมในกระบวนการที่นำไปสู่การบริหารการเงินทุกชนิดของสถาบัน ผู้ทำหน้าที่ด้านตุลาการที่อ้างถึงในวรรค 1 หมายถึงผู้ที่ทำหน้าที่ตามธรรมชาติของตุลาการ วรรค 1 จะไม่หมายถึงฝ่ายสนับสนุนหน่วยงานที่ควบคุมหรือที่เป็นผู้บังคับบัญชา โดยอาศัยคำสั่งจากผู้สอบบัญชีทั่วไปในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ต่อต้านการคอรัปชั่น สำนักงานและผู้ดำรงตำแหน่งที่ข้อผูกมัดของการประกาศระบุไว้ในวรรคนี้ก็อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์นี้ด้วย

§3 การประกาศที่อ้างถึงในวรรค 1 จะถูกเก็บไว้รักษาไว้โดยสำนักเลขาธิการเพื่อเศรษฐกิจในแฟ้มเอกสารส่วนบุคคลของผู้ประกาศ สำเนาหนึ่งฉบับจะถูกส่งไปยังสำนักเลขาธิการแห่งรัฐในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง

§4 เมื่อใดที่มีเหตุผลเพียงพอสำนักเลขาธิการฝ่ายเศรษฐกิจอาจมีการตรวจสอบความถูกต้องของถ้อยแถลงที่ได้รับโดยใช้องค์กรที่มีความสามารถจำเพาะของสันตะสำนักหรือของนครรัฐวาติกัน

§5 โดยมิคำนึงถึงกรณีของความอาญา การไม่ยอมแถลงการณ์ หรือให้คำแถลงการณ์ที่เป็นเท็จหรือไม่จริงจะเป็นมูลแห่งความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงภายใต้ความหมายแห่งกฎหมายมาตรา 76, §1, ข้อ 2 ซึ่งสันตะสำนักมีสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหายได้

§2 ในกฎหมายมาตรา 40 วรรค 1 แห่งกฎหมายทั่วไปของโรมันคูเรีย จดหมายฉบับนี้ต้องถูกแทรกเข้าไปหลังอักษร m) กล่าวคือ “n) การรับหรือการขอสำหรับตนเองหรือบุคคลที่ไม่ใช่ในนามสถาบันของกำนัลที่มีมูลค่ามากกว่า 40 ยูโร”

§3 การปกครองของนครรัฐวาติกัน ศาลวาติกัน และสถาบันที่รวมอยู่ในรายชื่อที่อ้างถึงในมาตรา 1§1 แห่งโรมันคูเรียที่ไม่นำมาใช้จะต้องแก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับบุคลากรตามข้อกำหนดของวรรค 1 และ 2 ภายใน 90 วันหลังจากวันที่กฤษฎีกานี้ประกาศใช้

เราขอประกาศว่ากฎระเบียบที่ตั้งขึ้นมานี้จะมีผลถาวรอย่างเต็มที่โดยทันทีโดยมิต้องพะวงกับข้อกำหนดอื่น ๆ ที่ขัดแย้ง และขอให้สมณลิขิตในรูปแบบของสมณดำริ (Motu Proprio) ฉบับนี้มีการพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ลอสแซร์วาโตเร โรมาโน (L’Osservatore Romano)” วันที่ 29 เมษายน 2021 และหนังสือสมณราชกิจจานุเบกษาตามลำดับ

ให้ไว้ ณ กรุงโรม มหาวิหารนักบุญเปโตร วันที่ 26 เมษายน 2021 เป็นปีที่เก้าแห่งสมณสมัยของเรา

ฟรานซิส


Bulletin of the Holy See Press Office29 April 2021