เช้าวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรัก เวลาประมาณ 10.00 น.สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดให้มีพิธีมอบประกาศรับรองวัดคาทอลิก โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี ร่วมด้วยพระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช อัครประมุข เขตอัครศาสนปกครองกรุงเทพฯ บิชอป ยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย บรรดาบิชอป มองซินญอร์ ดาเนียล ทูเมล (Monsignor Daniel Tumiel) อุปทูตวาติกันประจำประเทศไทย ในนามตัวแทนสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย และฝ่ายรัฐบาลอาทิ คุณยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม คุณชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา นางสุภัทร กิจเวช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม บรรดาบาทหลวง แขกผู้มีเกียรติและพี่น้องสัตบุรุษจำนวนหนึ่ง
งานได้เริ่มจากการประกอบพิธีขอพรทางศาสนา เป็นวจนพิธีกรรม โดย พระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช อัครประมุข เขตอัครศาสนปกครองกรุงเทพฯ เพื่อขอบพระคุณพระเจ้า สำหรับพระกรุณาอันหาขอบเขตมิได้ของพระองค์ และวอนขอพระพรจากพระองค์ สำหรับพันธกิจในการนำพระอาณาจักรแห่งความรักและสันติสุขมาสู่สังคมไทย และเพื่อขอพระองค์ทรงตอบแทนในน้ำใจดีของบรรดาผู้มีส่วนช่วยให้การดำเนินงานการจัดตั้งและการรับรองวัดคาทอลิก ดำเนินไปอย่างดีตามพระประสงค์ของพระองค์ ในบทเทศน์พระคุณเจ้ายังได้ย้ำถึงพระวาจาที่ได้ฟังในวจนพิธีกรรมคือเรื่องบุญลาภ 8 ประการ หรือความสุขแท้จริงของชีวิต ถ้าเราสามารถนำไปปฏิบัติได้ในชีวิตจริง เราทุกคนก็จะพบความสุข
หลังจากวจนพิธีกรรมแล้วผู้เข้าร่วมได้รับชมวีดีทัศน์ “วัดคาทอลิกในประเทศไทย ตามกฏหมาย รศ. ๑๒๘ ถึงปัจจุบัน” ผลิตโดยสื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย ซึ่งในวีดีทัศน์ บอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมา จากกฏหมาย ร.ศ.๑๒๘ จนถึงการดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน ที่มีการรับรองการจัดตั้งวัด และรับรองวัดคาทอลิก ตามกฏหมาย อันเป็นก้าวสำคัญของประวัติศาสตร์พระศาสนจักรในประเทศไทย
หลังจากชมวีดีทัศน์แล้ว ได้มีการกล่าวแสดงความขอบคุณและร่วมยินดีจาก บิชอปยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย และอุปทูตวาติกันประจำประเทศไทย กล่าวแสดงความยินดีในนามสมณทูตวาติกันประจำประเทศไทย โดย Monsignor Daniel Tumiel อุปทูตวาติกันประจำประเทศไทย
เมื่อสิ้นสุดการกล่าวขอบคุณและร่วมยินดีแล้ว นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวรายงาน การดำเนินงานเพื่อจัดตั้งและการรับรองวัดคาทอลิก ตาม พรบ. รศ. ๑๒๘ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. ๒๕๖๔ ต่อท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
และช่วงสำคัญของวันนี้คือคุณเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบประกาศรับรองวัดคาทอลิก แก่อัครมุขนายก มุขนายกมิสซัง และบาทหลวงตัวแทนมุขนายกมิสซัง จำนวน 12 ท่านได้แก่
อัครศาสนปกครองกรุงเทพ โดย พระคาร์ดินัล ฟรังซิส เซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช
1) ศาสนปกครองนครราชสีมา โดยบิชอป ยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์
ศาสนปกครองเชียงใหม่ โดย บิชอป ฟรังซิส เซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์
2) ศาสนปกครองเชียงราย โดย บิชอป ยอแซฟ วุฒิเลิศ แห่ล้อม
3) ศาสนปกครองราชบุรี โดย บิชอป ซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี
4) ศาสนปกครองอุบลราชธานี โดย บิชอป ฟิลิป บรรจง ไชยรา
5) บิชอป ยอห์น บอสโก ปัญญา กฤษเจริญ เป็นผู้แทนรับมอบประกาศรับรองวัดคาทอลิก ที่มีอยู่ใน พรบ. รศ. 128
6) ศาสนปกครองจันทบุรี โดย บาทหลวงอดิศักดิ์ พรงาม
7) ศาสนปกครองนครสววรรค์ โดย บาทหลวงเรืองฤทธิ์ ฤทธิบุญไชย
อัครศาสนปกครอง ท่าแร่ หนองแสง โดย บาทหลวง อดิพงษ์ แสนสุริยวงศ์
9) ศาสนปกครองสุราษฎร์ธานี โดย บาทหลวงอมรกิจ พรหมภักดี
10) ศาสนปกครองอุดรธานี โดย บาทหลวงอุดม ดีเลิศประดิษย์
หลังจากนั้นคุณเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวแสดงความยินดีและเพื่อเป็นการขอบคุณ พระคาร์ดินัล ฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช อัครประมุข เขตอัครศาสนปกครองกรุงเทพฯ ได้มอบของที่ระลึกในนามสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทยให้แก่
1) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
2) นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
3) นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา
4) นางสุภัทร กิจเวช ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
งานในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทยและรัฐบาลไทย ในการมอบประกาศรับรองวัดคาทอลิก จากผลการดำเนินงานเพื่อจัดตั้งและการรับรองวัดคาทอลิก ตาม พรบ. รศ. ๑๒๘ และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นการสร้างความภาคภูมิใจ ซาบซึ้งใจ ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ในการได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาตราบจนปัจจุบัน โดยให้พระศาสนจักรคาทอลิกสามารถเผยแผ่หลักความเชื่อ คำสอน และประกอบศาสนกิจได้โดยเสรีภายใต้กฎหมายและบริบทของสังคมไทย เพื่อสร้างสังคมแห่งสันติสุขที่ยั่งยืนร่วมกันต่อไป
สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย รายงาน