วันพฤหัสบดี, 7 พฤศจิกายน 2567
  

18 พฤศจิกายน วันครบรอบการถวายพระวิหารนักบุญเปโตร และนักบุญเปาโล อัครสาวก (Dedication of the Basilicas of St. Peter and St. Paul)

18 พฤศจิกายน
วันครบรอบการถวายพระวิหารนักบุญเปโตร และนักบุญเปาโล อัครสาวก
(Dedication of the Basilicas of St. Peter and St. Paul)

(1) พระวิหารนักบุญเปโตร

วัดหลังแรกที่สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกถึงได้ก่อสร้างบนหลุมฝังศพของนักบุญเปโตร ตั้งอยู่ปลายเนินวาติกันในกรุงโรมนั้น เป็นผลงานของนักบุญ อนาคลีตุส, พระสันตะปาปา (Pope St. Anacletus) ราวปี ค.ศ. 79 – 92 ณ ที่นี้พระธาตุของพระสันตะปาปาองค์แรกถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีนับตั้งแต่นั้นมา ยกเว้น ช่วงระยะเวลาสั้นๆในปี ค.ศ. 258 มีการนำไปหลบซ่อนไว้ในคาตาคอมป์นักบุญเซบาสเตียน เพื่อปกป้องให้รอดพ้นจากการดูหมิ่นศาสนาในช่วงการเบียดเบียนของจักรพรรดิวาเลเรียน (Valerian) มาในสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินผู้ยิ่งใหญ่ ได้ทรงสร้างบาสิลิกาที่สง่างามขึ้นมาเหนือหลุมศพนักบุญเปโตร ในปี ค.ศ. 319 มีการปรับปรุงอีกหลายครั้งในกาลเวลาต่อมา และเมื่อเก่ามากจนใกล้จะพังทลายแล้ว พระสันตะปาปาจูลีอุส ที่ 2 (Pope Julius II) จึงทรงสั่งทุบทิ้งทั้งหมด และให้สร้างขึ้นใหม่ โดยทรงเสกศิลาฐานของพระวิหารเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1506 และนี่ก็คือพระวิหารที่เราเห็นกันในปัจจุบันนี้ ซึ่งถือว่ายิ่งใหญ่และล้ำค่ามากที่สุด โดยสร้างขึ้นมาจากการออกแบบของบรามันเต (Bramante) และมิเกลันเจโล (Michelangelo) ซึ่งสามารถจุคนได้ถึง 50,000 คน พระวิหารนี้ได้รับการเสกอย่างสง่าโดยพระสันตะปาปาอูรบัน ที่ 8 (Pope Urban VIII) เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1626

(2) พระวิหารนักบุญเปาโล (นอกกำแพง)

ในปี ค.ศ. 103 Pope St Evaristus (พระสันตะปาปาลำดับที่ห้า ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 99 – 107) ได้ทรงสร้างวัดหลังแรกบนตำแหน่งที่ฝังศพของนักบุญเปาโล ใกล้ๆกับอารามฤาษีแห่งน้ำพุ(เล็ก)ทั้งสาม (Tre Fontane) บนถนนออสเตียน (Ostian way) ซึ่งเป็นที่เชื่อกันว่านักบุญเปาโลได้ถูกตัดศีรษะและถูกฝังไว้ที่นี่ (บางตำราบอกว่า Pop St Anacletus ซึ่งเป็นพระสันตะปาปาลำดับที่สาม ได้ทรงสร้างวัดหลังแรกนี้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ต้องเป็นช่วงก่อนปี ค.ศ. 92) วัดนี้ได้รับความเคารพกันว่ากฎหมายโรมันมิสามารถทำอะไรได้ ในปี ค.ศ. 324 จักรพรรดิคอนสแตนตินผู้ยิ่งใหญ่ได้ทรงเปลี่ยนแปลงจากวัดให้เป็นบาสิลิกาที่งดงาม และในปี ค.ศ. 385 อาคารที่ใหญ่กว่าที่มีความยาวถึง 400 ฟุตก็สร้างสำเร็จ สถานที่ตั้ง “อยู่นอกกำแพง” ต่อมาบาสิลิกาหลังนี้ถูกปล้นในปี ค.ศ. 739 อย่างไรก็ตาม ได้มีการบูรณะและแต่งเสริมเติมต่อเป็นช่วงๆระหว่าง ค.ศ. 1500 ถึง ค.ศ. 1700 จากนั้นก็คงอยู่มาจนถึงปี ค.ศ. 1823 ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ทำลายไป พระวิหารของนักบุญเปาโลหลังใหม่ ซึ่งได้พยายามรักษาโฉมหน้าหรือลักษณะแบบโบราณไว้ก็ได้รับการเสกอย่างสง่าโดยพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 9 (Pope Pius IX) ในปี ค.ศ. 1854 สองวันหลังการประกาศข้อความเชื่อเรื่องการปฏิสนธินิรมลของพระนางมารีย์พรหมจารีนั่นเอง

(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)