วันที่ 21 สิงหาคม
ระลึกถึงนักบุญปีโอที่ 10 พระสันตะปาปา
(St Pius X, Pope, memorial)
(-)”ฟื้นฟูทุกสิ่งแด่พระ
คริสตเจ้า เพื่อพระคริสตเจ้าจะทรงเป็นทุกสิ่งสำหรับทุกคน” นี่คือคติพจน์ (motto) ของพระสันตะปาปาปีโอที่ 10 ผู้สืบตำแหน่งต่อจากนักบุญเปโตรองค์ที่ 258 และพระองค์ได้ทรงทำให้คติพจน์นี้ประสบความสำเร็จงดงามในทุกๆมิติของพระศาสนจักร เพราะมิมีด้านใดเลยที่พระองค์จะมิทรงเข้าไปเกี่ยวข้อง เข้าไปนำทาง เข้าไปตัดสินใจ หรือเข้าไปยกระดับขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นด้าน พิธีกรรม ศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ คำสอน บทเทศน์ การศึกษา พระคัมภีร์ กฎหมายพระศาสนจักร ดนตรีและศิลปะศักดิ์สิทธิ์ งานสังคมสงเคราะห์ การอบรมพระสงฆ์ และทุกๆเรื่องที่เกี่ยวกับพระศาสนจักร
(-)พระนามเดิมคือ
จูเซปเป เมลกิโอเร
ซาร์โต (Giuseppe Melchiore Sarto) เกิดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 1835 ที่ Riese สังฆมณฑล Treviso ประเทศอิตาลี ได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์เมื่อวันที่ 18 กันยายน 1858 ได้รับการบวชเป็นพระสังฆราชแห่ง Mantua เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1884 ในฐานะพระสังฆราช ได้ทำหน้าที่เป็นนายชุมพาบาลที่มีผลงานประสบความสำเร็จมากมาย รวมทั้งงานปฏิรูปบรรดาสมณะ จึงทำให้ท่านได้รับตำแหน่งพระคาร์ดินัลในวันที่ 12 มิถุนายน 1893 และได้รับตำแหน่งพระสังฆอัยกาแห่งเวนิส (Patriarchate of Venice) ในเวลาอีก 3 วันต่อมา
(-)เมื่อเป็นพระคาร์ดินัล ท่านซึ่งเป็นลูกชาวไร่ชาวนาเหมือนกัน ก็ได้ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์อย่างน่าสรรเสริญ ได้เอาใจใส่อย่างยิ่งยวดต่อชะตากรรมของชนชั้นแรงงาน อันได้แก่พวกชาวไร่ชาวนา พวกชนชั้นกรรมาชีพ และได้ช่วยดึงคนงานจำนวนมากให้ออกห่างจากสหภาพแรงงานสังคมนิยมที่ไม่นับถือพระเจ้า
(-)เมื่อสมณสมัยที่ยาวนาน และที่บังเกิดผลดีของพระสันตะปาปาเลโอที่ 13 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 1903 พระคาร์ดินัล
ซาร์โต ก็ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาองค์ต่อมาในวันที่ 4 สิงหาคม 1903
(-)ขณะที่ทรงดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา พระองค์ทรงทราบดีว่า พระองค์ทรงได้รับพลัง ความสุภาพอ่อนโยน ความอบอุ่นที่มอบให้กับประชาชน มาจากแหล่งกำเนิดพระพรทุกๆประการ คือพระเยซูเจ้านั่นเอง ดังนั้น นอกจากมิติทุกๆด้านในพระศาสนจักรที่ทรงเข้าไปฟื้นฟู ปรับเปลี่ยน ส่งเสริม เพิ่มเติม ดังที่กล่าวมาในเบื้องต้นแล้ว ยังทรงส่งเสริมให้รับศีลมหาสนิทบ่อยๆ และแม้แต่รับทุกวัน สำหรับทุกคนที่อยู่ในสถานะพระหรรษทาน และทรงนำเสนอให้เด็กๆที่มีอายุรู้เหตุผลแล้วได้รับอนุญาตให้รับศีลได้ด้วยสิทธิพิเศษเดียวกันนี้ ในสมณประกาศ 14 ฉบับ ที่ออกมาเป็นชุด พระสันตะปาปาปีโอที่ 10 ได้ทรงแสดงออกอย่างชัดเจนที่จะทำลายลัทธินิยมสมัยใหม่ที่กำลังแพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว เพราะแก่นแท้ของลัทธินี้คือการปฏิเสธพระฤทธานุภาพในการปกครองขององค์พระผู้เป็นเจ้า และปฎิเสธระบบระเบียบเหนือธรรมชาติด้วย
(-)พระสันตะปาปาปีโอที่ 10 ทรงตระหนักดีว่า การอุทิศพระองค์เองเป็นพื้นฐานของความศักดิ์สิทธิ์ และก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคนในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ตลอดพระชนมชีพของพระองค์ แต่สิ่งที่ทำให้พระองค์เศร้าพระทัยที่สุด ก็คือการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ผู้คนและชาติต่างๆแสดงความเป็นปฎิปักษ์ต่อกัน และเกลียดชังกัน จนถึงกับทำให้พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 1914 ทรงได้รับการประกาศเป็นบุญราศีในวันที่ 3 มิถุนายน 1951 และได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นนักบุญในวันที่ 29 พฤษภาคม 1954 โดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ทั้งใน 2 กรณี
(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)