21 มิถุนายน
ระลึกถึง นักบุญหลุยส์ คอนซากา นักบวช
(St. Aloysius Gonzaga, Religious, memorial)
นักบุญหลุยส์เป็นบุตรชายคนโตของมาร์ควิส เฟอร์ดินานด์ แห่ง คอนซากา (Marquis Ferdinand of Gonzaga) ซึ่งเป็นดยุคของเมือง Mantua, เจ้าชายแห่งจักรวรรดิโรมัน (Prince of the Roman Empire) เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1568 นักบุญอลอยซีอุส (Aloysius) หรือ “หลุยส์” (Louis) หรือ “ลุยจี” (Luigi) คอนซากานั้นถูกคาดหวังให้เป็นรัฐบุรุษหรือนายทหารที่ยิ่งใหญ่ในภายหน้า ดังนั้น เมื่ออายุ 8 ปีได้ถูกส่งพร้อมกับน้องชายให้ไปใช้ชีวิตในสำนักของฟรานเชสโก แห่งเมดิซี ในเมืองฟลอเร้นซ์ ประเทศอิตาลี เป็นเวลา 2 ปี แต่ความคิดของท่านกลับซึมซาบในเรื่องฝ่ายจิตแล้ว โดยที่ท่านปฏิญาณจะถือความบริสุทธิ์ตลอดไป และได้ทำการสารภาพบาปโดยการเป็นทุกข์กลับใจอย่างแท้จริงจนว่าท่านหมดสติไปแทบเท้าของผู้ฟังสารภาพบาป จากเมืองฟลอเร้นซ์ท่านถูกส่งกลับไปเมือง Mantua แม้กระทั่งที่นี่ท่านยังคงบังคับตนด้วยความมีระเบียบวินัย และจำศีลอดอาหารอย่างเคร่งครัด โดยมีความมุ่งมั่นจะเอาชนะอารมณ์ร้อนของตน และชอบด่วนตัดสินผู้อื่น เมื่ออายุได้ 12 ปี ท่านได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรกจากนักบุญชาร์ลส์ โบโรเมโอ (St. Charles Borromeo) พระอัครสังฆราชแห่งเมืองมิลาน ผู้เป็นญาติของท่าน
จากนั้นไม่นาน ท่านได้ตัดสินใจลาตำแหน่งของท่านโดยยกให้น้องชายไป เพื่อจะได้ไปเป็นนักบวช แต่บิดาของท่านได้ต่อต้านความคิดนี้อย่างรุนแรง และท่านต้องใช้ความพยายามโดยไม่ย่อท้อถึง 3 ปีถึงจะได้รับการยินยอมจากบิดาของท่าน ในขณะเดียวกัน ท่านได้ถูกส่งตัวไปเป็นเวลา 2 ปีเพื่อเป็นมหาดเล็กแห่งราชสำนักที่กำลังรุ่งเรืองของพระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน ต่อจากนั้นก็ต้องไปเยี่ยมคารวะบรรดาดยุคและเจ้าชายของอิตาลีภาคเหนือ ซึ่งพวกเขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้ท่านเปลี่ยนความคิด แต่ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุด เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 1585 อลอยซีอุส ซึ่งมีอายุ 17 ปี ก็สามารถเดินทางไปที่โรม เพื่อเข้าบ้านฝึกหัดของคณะเยซูอิต
อลอยซีอุสได้พัฒนาชีวิตของท่านในการบำเพ็ญเพียรภาวนา และความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าในขณะที่ยังอยู่ในโลกนี้ และได้รับพระหรรษทานให้มีจิตภาวนาได้เป็นเวลายาวนานโดยไม่วอกแวกแม้แต่น้อย บางครั้งใช้เวลาถึง 5 ชั่วโมงเต็ม ฤทธิ์กุศลที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของท่านคือความนอบน้อมเชื่อฟังต่อบรรดาอธิการของท่าน และนี่ก็สอดคล้องกับพระประสงค์ของพระเจ้า ทำให้ท่านมีสันติสุขในจิตใจอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งใครๆก็เห็นได้อย่างชัดเจน
“ฉันเป็นเหมือนเหล็กเส้นที่คดงอ และได้ใช้ศาสนาเพื่อทำให้เป็นเส้นตรง” นี่คือคำที่แสดงถึงความสุภาพของท่าน และคติพจน์ของท่านคือ “ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า”
เมื่ออายุ 22 ปี ท่านได้รับการเตือนล่วงหน้าว่ากำลังจะเข้าใกล้ความตายแล้ว และได้มอบข้อเขียนทางเทววิทยา และชีวิตจิตให้กับอธิการของท่าน เพราะเป็นเพียงสิ่งนอกกายที่ท่านยังติดใจอยู่ เมื่อเกิดภาวะอดอยากครั้งใหญ่ในอิตาลีเมื่อปี ค.ศ. 1590 ตามมาด้วยโรคระบาด คณะเยซูอิตได้เปิดโรงพยาบาลฉุกเฉิน และอลอยซีอุสขอรับบริจาคและได้ช่วยดูแลคนเจ็บป่วย แต่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1591 ท่านกลับป่วยเอง และสิ้นใจในวันที่ 21 มิถุนายน หลังจากทนทุกข์จากความเจ็บป่วยได้ 3 เดือน ท่านจากไปเมื่ออายุ 23 และเข้าคณะเยซูอิตมาได้เพียง 6 ปีเท่านั้น นักบุญโรเบิร์ต เบลลาร์มีน (St. Robert Bellarmine) ได้อยู่ข้างๆท่านตลอดทั้งคืนสุดท้ายนั้น ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นนักบุญในปี ค.ศ. 1726 และในปี ค.ศ. 1729 ได้รับการประกาศให้เป็นผู้ปกป้องพิเศษและองค์อุปถัมภ์ของบรรดาเยาวชน โดยเฉพาะบรรดานักเรียนเยาวชนคาทอลิก
(ถอดความโดย คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ จากหนังสือ Saint Companions For Each Day ; เขียนโดย A.J.M. Mausolfe และ J.K. Mausolfe)