คำถามพื้นฐานของซีนอด “การก้าวเดินไปด้วยกัน” ของพระศาสนจักรท้องถิ่น เพื่อการรับฟัง (sentire cum ecclesia)

คำนำ

หลังจากเสร็จสิ้นสภาสังคายนาวาติกันที่ 2 ในปี ค.ศ.1965 นักบุญพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 ได้กำหนดให้มีประชุมซีนอดของบรรดาบิชอปทั่วโลกทุก ๆ 4 ปี เพื่อขับเคลื่อนพระศาสนจักรให้ก้าวหน้าทันกับยุคสมัย ในปี ค.ศ. 2023 จะเป็นกระชุมซีนอดสมัยสามัญครั้งที่ 16  พระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงตั้งหัวข้อว่า “เพื่อพระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกัน: ความเป็นเอกภาพ  การมีส่วนร่วม และพันธกิจ” พระองค์ทรงเน้นให้มีการรับฟังจากประชากรของพระเจ้าอย่างกว้างขวาง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องฟังเสียงของบุคคลชายขอบสังคม  เป็นการฟังเสียงของประชากรของพระเจ้าที่ร่ำร้องออกมาในความจริงแห่งความเชื่อที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งการเจริญชีวิต

          ในกระบวนการรับฟังเสียงของประชากรของพระเจ้านั้นก็จะมีขั้นตอนในการออกไปซักถาม  การให้ตอบแบบสอบถามในจำนวนสัดส่วนที่พอรับได้ว่าเป็นตัวแทนของประชากรของพระเจ้า  แต่ถึงกระนั้นพระสันตะปาปาทรงเปิดโอกาสกว้างขวางที่สุด  โดยให้ประชากรของพระเจ้าส่งข้อคิดของตนเองถึงคณะกรรมการดำเนินการซีนอดในระดับเขตศาสนปกครองท้องถิ่น(สังฆมณฑล)  ระดับภาคพื้นทวีปและระดับสากลได้โดยตรง  สำหรับประเทศไทยของพวกเรา ทุกเขตศาสนปกครอง (สังฆมณฑล) ได้เปิดกระบวนการในการก้าวเดินไปด้วยกัน (ซีนอด) พร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2021 และต้องส่งผลการแสดงความคิดเห็นให้สำนักเลขาธิการสภาบิชอปคาทอลิกแห่งประเทศไทย ภายในวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 2022 เพื่อทำการสรุปรวมผลการประชุมซีนอดของประเทศไทย สำหรับส่งต่อไประดับภาคพื้นเอเชีย (FABC) และส่งไปยังสำนักเลขาธิการซีนอด กรุงโรม ภายในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 2022  ดังนั้นหากพี่น้องท่านใดที่ไม่ได้อยู่ในจำนวนที่ต้องตอบแบบสอบถามหรือขอข้อมูลในกระบวนการของการทำซีนอดระดับท้องถิ่น ท่านมีโอกาสแสดงความคิดเห็นของท่านโดยตรงไปที่คณะทำงานของแต่ละเขตศาสนปกครอง (สังฆมณทล) ของท่านหรือส่งมาที่สำนักเลขาธิการสภาบิชอป ฯ ภายในเวลากำหนดที่แจ้งให้ทราบแล้ว

จุดประสงค์:            เพื่อให้ผู้ที่ปรารถนามีส่วนร่วมในกระบวนการซีนอดฐานะประชากรพระเจ้า และต้องการแสดงความคิดเห็นทางออนไลน์

ผู้ตอบคำถาม:         ประชากรของพระเจ้า (ผู้ที่ได้รับพิธีล้างบาป) ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นจากมโนธรรมของตนเอง ด้วยความสำนึกในความเชื่อ และในความรับผิดชอบฐานะเป็นคริสตชนคนหนึ่ง

ลักษณะการตอบ:     1) ขอให้ท่านแสดงตนเองระบุชื่อนักบุญ ชื่อตัว นามสกุล อายุ  ที่อยู่ หรือเครื่องมือสื่อสารที่ติดต่อได้ กรณีที่คณะกรรมการอาจจะขอความเห็นเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจชัดเจน แต่ขอรับรองว่าจะเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับ

2) ขอให้ท่านตอบคำถามจากประสบการณ์จริงที่สัมผัสได้จากคำสอนของพระเยซูคริสต์และการเป็นคริสตชน

3) ขอให้ตอบด้วยความกล้าหาญ ซื่อตรง ตามมโนธรรม ไม่ต้องระบุชื่อบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องแบบเฉพาะ ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายส่วนบุคคลได้

4) ท่านไม่จำเป็นต้องตอบคำถามทุกข้อ อาจเลือกบางหัวข้อที่ท่านอยากแสดงความคิดเห็น ประเด็นที่ตนเองมีประสบการณ์จริง ท่านอาจจะมีประเด็นอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในคำถามเหล่านี้ก็ได้ แต่ขอให้คำตอบเป็นลักษณะสร้างสรรค์ เพื่อความดีงามและคุณประโยชน์ของพระศาสนจักรส่วนรวม

5) ขอให้มีการสวดภาวนา ฟังเสียงของพระจิต และไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งก่อนตอบคำถาม

คำถามแบบทั่วไป:

  1. ประสบการณ์จริงในพระศาสนจักรท้องถิ่นที่ท่านสังกัดอยู่
  2. ท่านมีความชื่นชมยินดีอะไรบ้างที่พระศาสนจักรนำมาให้?
  3. มีความยากลำบากและอุปสรรคใดบ้างที่ท่านเผชิญ?
  4. ท่านเห็นความผิดพลาด บกพร่อง สิ่งไม่ดีงามใดบ้างในพระศาสนจักรที่ท่านดำเนินชีวิตอยู่?
  5. ท่านปรารถนาที่จะแก้ไขจุดใดบ้างในพระศาสนจักรที่ท่านสังกัด?
  6. การไตร่ตรองและการแบ่งปันประสบการณ์
  7. จากประสบการณ์ที่ท่านมี ท่านได้ยินเสียงของพระจิตก้องกังวานที่ใดบ้าง?
  8. พระจิตทรงขออะไรจากตัวท่าน?
  9. ท่านมีประเด็นใดบ้างที่เห็นชอบสนับสนุน หรือมีแนวโน้มที่อยากให้ปรับเปลี่ยน หรือข้อเสนอในขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติเพื่อการเปลี่ยนแปลง?
  10. ท่านเห็นพ้องต้องกัน ณ จุดใดบ้างเพื่อจะทำให้พระศาสนจักรท้องถิ่นเจริญเติบโตขึ้น?
  11. ท่านเห็นหนทางใดบ้างที่เปิดให้พระศาสนจักรท้องถิ่นของท่านก้าวเดินไปด้วยกัน?

คำถามแบบเฉพาะที่ควบคู่ไปกับประเด็นต่าง ๆ ที่ท่านควรพิจารณาไตร่ตรอง:

“การเดินทางไปด้วยกัน” จะเกิดขึ้นได้ในสองหนทางที่เชื่อมสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น ประการแรก พวกเราเดินทางไปด้วยกันในฐานะที่เป็นประชากรของพระเจ้า ประการที่สองพระจิตนำพาพวกเราเดินทางไปด้วยกันในฐานะประชากรของพระเจ้าพร้อมกับครอบครัวมนุษย์ทั้งปวง

คำถามที่ควบคู่กับหัวข้อ 10 ประเด็น ต่อไปนี้สามารถถูกนำมาใช้เป็นจุดเริ่มต้นหรือช่วยเป็นตัวชี้นำ การสนทนาและการเสวนาของพวกท่านไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แต่ในประเด็นเหล่านี้

  1. เพื่อนผู้ร่วมเดินทาง

ในพระศาสนจักรและในสังคม พวกเราเดินเคียงบ่าเคียงไหล่อยู่บนถนนสายเดียวกัน ในพระศาสนจักรท้องถิ่นที่กำลัง “เดินทางไปด้วยกัน” สิ่งใดบ้างที่พวกเราควรไตร่ตรอง…

  • เพื่อนร่วมเดินทางในแวดวงของท่านมีใครบ้าง?
  • ใครบ้างในคนเหล่านั้นที่ดูเหมือนจะเดินอยู่ห่างไกลโดยลำพัง?
  • ท่านถูกเรียกร้องให้เจริญเติบโตขึ้นในฐานะที่เป็นกัลยาณมิตรได้อย่างไร?
  • กลุ่มหรือบุคคลใดที่ถูกทอดทิ้งไว้เป็นบุคคลชายขอบสังคม?

2. การฟัง

การฟังเรียกร้องให้ต้องเปิดใจกว้างโดยปราศจากความลำเอียง พระเจ้าตรัสกับพวกเราโดยอาศัยเสียงของผู้ร่วมเดินทาง ท่านจึงควรไตร่ตรอง เช่น

  • ท่านให้ความสนใจฟังเสียงของพระเจ้าผ่านทางบุคคลต่าง ๆ หรือไม่?
  • พระศาสนจักรฟังเสียงฆราวาสดังกล่าวอย่างไร โดยเฉพาะเสียงของสตรีและเยาวชน?
  • มีองค์ประกอบอะไรบ้างที่ส่งเสริมและสนับสนุนในการฟังของพวกท่าน?
  • ท่านฟังเสียงของบุคคลที่ไม่มีความสำคัญอะไรในสังคมได้ดีแค่ไหนและฟังอย่างไร?
  • ท่านฟังเสียงของบรรดาผู้ถวายตัว นักบวชชายหญิงด้วยหรือไม่?
  • สิ่งใดเป็นอุปสรรคในการรับฟังความเห็นของท่าน โดยเฉพาะเสียงของผู้ที่มีความคิดเห็นต่างจากพวกท่าน? 
  • มีพื้นที่ใดบ้างในการฟังเสียงของชนส่วนน้อยโดยเฉพาะคนที่ยากจน คนที่ไม่มีใครเหลียวแล และคนที่ถูกตัดออกจากสังคม?

3. การพูดแสดงความเห็น

ทุกคนได้รับการเชิญให้พูดความจริงด้วยความกล้าหาญ กล่าวคือ พูดอย่างอิสระเสรี พูดความจริง และพูดด้วยความรัก ดังนั้น

  • อะไรสนับสนุนหรือขัดขวางให้พูดความจริง ด้วยมุ่งหวังที่จะแสดงถึงความรับผิดชอบต่อพระศาสนจักรท้องถิ่นและสังคม?
  • พวกท่านสามารถพูดถึงสิ่งที่มีความสำคัญต่อพวกท่านในฐานะคริสตชน เมื่อใดและอย่างไร?
  • ความสัมพันธ์กับสื่อและสำนักข่าวท้องถิ่นเป็นอย่างไรบ้าง (ไม่ใช่เพียงแค่สื่อของคาทอลิก)?
  • ใครเป็นผู้แทนชุมชนคาทอลิกและเขาจะถูกเลือกที่จะขึ้นไปพูดแทนชุมชนคาทอลิกอย่างไร?

4. การเฉลิมฉลองพิธีกรรม

“การเดินไปด้วยกัน” จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีพื้นฐานอยู่ที่การฟังซึ่งกันและกัน การฟังพระวาจาและการเฉลิมฉลองศีลมหาสนิท ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณา เช่น

  • การอธิษฐานภาวนาและจารีตพิธีกรรมสร้างแรงบันดาลใจและชี้นำชีวิตและพันธกิจในชุมชนของท่านอย่างไร?
  • จารีตพิธีกรรมสร้างแรงบันดาลใจให้กับการตัดสินใจที่สำคัญอย่างไร?
  • ท่านส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสัตบุรุษทุกคนในจารีตพิธีกรรมอย่างไร? 
  • ท่านมีพื้นที่สำหรับการมีส่วนร่วมในพันธกิจของผู้อ่านและผู้ช่วยพิธีกรรมบ้างไหม?

5. การมีส่วนในความรับผิดชอบต่อพันธกิจร่วมกันของพวกเรา  

    การก้าวเดินไปดัวยกันเป็นการรับใช้พันธกิจของพระศาสนจักรซึ่งสมาชิกทุกคนถูกเรียกร้องให้ต้องมีส่วนร่วม เนื่องจากพวกเราทุกคนเป็นศิษย์ธรรมทูต ดังนั้นสิ่งที่ท่านควรไตร่ตรอง เช่น

  • ผู้ที่ได้รับพิธีล้างบาปถูกเรียกให้มีส่วนร่วมในพันธกิจของพระศาสนจักรอย่างไรบ้าง? 
  • พันธกิจใดบ้างที่ท่านรู้สึกว่าถูกละเลย?
  • ชุมชนให้การสนับสนุนอย่างไร ในฐานะผู้ที่รับใช้สังคมในรูปแบบต่างๆ (การมีส่วนร่วมในสังคมและการเมือง การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การศึกษา การส่งเสริมความยุติธรรมในสังคม การปกป้องสิทธิมนุษยชน การพิทักษ์ธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ฯลฯ)
  • พระศาสนจักรช่วยสมาชิกเหล่านี้ให้ดำเนินชีวิตการรับใช้สังคมในลักษณะที่เป็นธรรมทูตอย่างไร?
  • การไตร่ตรองเกี่ยวกับการเลือกงานธรรมทูตกระทำกันอย่างไรและโดยผู้ใด?

6.     การเสวนาภายในพระศาสนจักรและภายในสังคม

       การเสวนาเรียกร้องให้ต้องมีความเพียรและความอดทน ต้องทำให้เกิดความเข้าใจระหว่างกันด้วย สิ่งที่เสนอให้ท่านไตร่ตรอง เช่น

  • บุคคลที่มีความแตกต่างในชุมชนของท่านมีการมาประชุมเสวนากันในระดับไหนบ้าง?
  • พระศาสนจักรท้องถิ่นของพวกท่านมีพื้นที่และเครื่องมือในการเสวนาอย่างไรบ้าง?
  • ท่านส่งเสริมความร่วมมือกันกับเขตศาสนปกครองใกล้เคียง คณะนักบวชในท้องที่ สมาพันธ์ฆราวาสและกระบวนการขับเคลื่อน ฯลฯ อย่างไร?
  • ความแตกต่างแห่งวิสัยทัศน์ ความขัดแย้ง และความยุ่งยากจะมีการกล่าวถึงและแก้ไขอย่างไร?
  • ประเด็นพิเศษใดบ้างในพระศาสนจักรและสังคมที่ท่านคิดว่าต้องใส่ใจมากขึ้น?
  • ประสบการณ์ในการเสวนาและความร่วมมืออะไรบ้างที่ท่านมีกับผู้มีความเชื่อในศาสนาอื่น ๆ และกับผู้ที่ไม่มีความเชื่อ? 
  • พระศาสนจักรทำการเสวนาและเรียนรู้จากภาคส่วนอื่นของสังคมอย่างไร เช่น ในบริบทของการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และผู้ที่มีชีวิตอยู่ในความยากจน?

7. คริสตศาสนจักรสัมพันธ์ (ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชน)

การเสวนาระหว่างคริสตชนนิกายต่างๆ ที่เป็นหนึ่งเดียวกันในศีลล้างบาปมีพื้นที่พิเศษในการเดินทางที่ก้าวเดินไปด้วยกัน สิ่งที่ท่านควรไตร่ตรอง เช่น

  • ชุมชนแห่งพระศาสนจักรของพวกเรามีความสัมพันธ์อะไรบ้างกับสมาชิกของคริสตชนนิกายอื่น ๆ ?
  • ท่านมีการแบ่งปันอะไรกันและมีการเดินทางร่วมกันอย่างไร?
  • ท่านได้รับผลอะไรบ้างจากการที่พวกเราก้าวเดินไปด้วยกัน?
  • ท่านมีความยุ่งยากลำบากอะไรบ้างไหม?
  • พวกท่านจะมีขั้นตอนต่อไปอย่างไรในการก้าวเดินไปด้วยกัน?

8. อำนาจ (authority) และการมีส่วนร่วม

พระศาสนจักรที่ก้าวเดินไปด้วยกันเป็นพระศาสนจักรที่ทุกคนมีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบ สิ่งที่ต้องไตร่ตรอง เช่น

  • ชุมชนพระศาสนจักรของพวกท่านมีเป้าหมายที่ต้องปฏิบัติ มีหนทางที่จะต้องไปให้ถึง และมีขั้นตอนที่ต้องทำอย่างไรบ้าง?
  • การใช้อำนาจและการปกครองในพระศาสนจักรท้องถิ่นของพวกท่านเป็นอย่างไร?
  • การทำงานเป็นทีมและการรับผิดชอบร่วมกันอย่างไร?
  • กระบวนการก้าวเดินนั้นมีการประเมินผลกันอย่างไรและโดยผู้ใด?
  • มีการส่งเสริมพันธกิจและความรับผิดชอบของฆราวาสอย่างไร?
  • พวกท่านมีประสบการณ์ของการก้าวเดินไปด้วยกันที่เป็นผลในระดับพระศาสนจักรท้องถิ่นบ้างหรือไม่ (สภาภิบาลวัด และเขตศาสนปกครอง สภาสมณะ ฯลฯ)?
  • พวกท่านสามารถส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการเป็นผู้นำในการก้าวเดินไปด้วยกันให้มากยิ่งขึ้นได้อย่างไร?

          9.     การไตร่ตรองและการตัดสินใจ

ในลักษณะรูปแบบของการก้าวเดินไปด้วยกัน พวกเราทำการตัดสินใจโดยอาศัยการไตร่ตรองสิ่งที่พระจิตตรัสกับพวกเราโดยผ่านชุมชน สิ่งที่นำเสนอในการไตร่ตรอง เช่น

  • ท่านใช้ยุทธวิธีและกระบวนการอะไรในการตัดสินใจ?
  • ท่านจะพัฒนาให้ดีขึ้นได้อย่างไร?
  • ท่านจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจภายในโครงสร้างของพระศาสนจักรได้อย่างไร?
  • วิธีการตัดสินใจของท่านช่วยให้ฟังประชากรทั้งมวลของพระเจ้าหรือไม่?
  • ในรูปแบบของการก้าวเดินไปด้วยกัน ท่านตัดสินใจผ่านการไตร่ตรองแยกแยะสิ่งที่พระจิตตรัสผ่านชุมชนทั้งหมดของพวกท่าน ท่านใช้วิธีการและกระบวนการใดในการตัดสินใจ?
  • ท่านจะปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ ของการก้าวเดินไปด้วยกันได้อย่างไร?
  • ท่านจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจภายในโครงสร้างแบบลำดับชั้นพระฐานานุกรมได้อย่างไร?
  • ท่านมีวิธีการตัดสินใจของท่านเพื่อช่วยการรับฟังเสียงประชากรทั้งปวงของพระเจ้าหรือไม่?
  • สิ่งใดคือความสัมพันธ์ระหว่างการปรึกษาหารือกับการตัดสินใจ และท่านจะนำสิ่งเหล่านี้ไปปฏิบัติได้อย่างไร?
  • เครื่องมือและขั้นตอนใดบ้างที่พวกท่านใช้เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและความรับผิดชอบ พวกท่านจะเติบโตในการแยกแยะชีวิตฝ่ายจิตของชุมชนได้อย่างไร?

10. การพัฒนาสร้างตัวตนของพวกเราเองในการก้าวเดินไปด้วยกัน

การก้าวเดินไปด้วยกันนำมาซึ่งการเปิดรับการเปลี่ยนแปลง การอบรม และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นสิ่งที่ควรไตร่ตรอง เช่น

  • ชุมชนพระศาสนจักรของพวกท่านสร้างบุคคลให้สามารถ “เดินไปด้วยกัน” รับฟังซึ่งกันและกัน มีส่วนร่วมในพันธกิจ และมีส่วนร่วมในการสนทนาได้อย่างไร?
  • มีการเสนอรูปแบบใดเพื่อส่งเสริมการเล็งเห็นและการใช้อำนาจในลักษณะสร้างสรรค์ในการก้าวเดินไปด้วยกัน?

คณะกรรมการดำเนินการบริหารสภาบิชอปคาทอลิกฯ

ออกแบบสอบถามพื้นฐานส่วนกลาง

4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021